!!!ดาวใต้นิวส์ออนไลน์!!! สตูลเลี้ยงผึ้งในสวนยางรายได้เสริมมากกว่ารายได้หลัก

 สตูลเลี้ยงผึ้งในสวนยางรายได้เสริมมากกว่ารายได้หลัก

                    เกษตรกรชาวสวนยางพาราปลูกสละอินโดแซมสวนยาง ในพื้นที่ 4 ไร่ และศึกษาเรื่องการเลี้ยงผึ้งเพื่อช่วยในการผสมพันธุ์สละ  เมื่อศึกษาอบรมแล้วนำรังผึ้งมาวางไว้ในสวน จำนวน 36 รัง ทางเกษตรอำเภอมาอบรมให้ความรู้และเรียนรู้จากประสบการณ์จริง เพียง 3 ปีสามารถผลิตน้ำผึ้งออกจำหน่ายได้ปีละกว่า 120 ขวด สร้างรายได้เสริมมากกว่าอาชีพหลักเลยทีเดียว

                    น.ส.ปิยะนาถ  โสลิกี  อยู่บ้านเลขที่ 276 ม.6 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล กล่าวว่าเดิมทีสวนยางพารา เป็นของพ่อและพ่อก็ปลูกสละแซมร่องยางพาราเป็นรายได้เสริม ตอนแรกไม่ได้สนใจเรื่องเลี้ยงผึ้งจนทางเกษตรอำเภอได้เชิญเข้าอบรม จึงทดลองทำดู นำรังผึ้งมาวางไว้ โดยเรียนรู้จากการอบรมและลองผิดลองถูกมา 1 ปีจากนั้นก็เริ่มเลี้ยงอย่างจริงจัง

โดยขณะนี้เลี้ยงมา 3 ปีแล้วมีรังผึ้งอยู่ 36 รัง โดยปีที่ผ่านมาสามารถได้น้ำผึ้งมากถึงกว่า 120 ขวดขายขวดละ1 ก.ก.ในราคาขวดละ 500 บาท  และหากแบ่งขายทั้งรังก็ขายก.ก.ละ 500 บาทเช่นกัน รวมรายได้จากการจำหน่ายน้ำผึ้งกว่า 6 หมื่นบาท ถือเป็นรายได้มากกว่ายางพารา  โดยการเลี้ยงผึ้งลงทุนแค่รังเพียงครั้งเดียวสามารถเก็บน้ำผึ้งขายได้ตลอด ยิ่งช่วงที่ดอกไม้บานผึ้งก็จะขยันบินออกไปหาน้ำผึ้งมาเก็บไว้  เพียง2 เดือนเศษน้ำผึ้งก็จะเต็มรังเร็วมาก ส่วนการเก็บน้ำผึ้งก็จะมีอุปกรณ์ในการเก็บโดยจะเซฟร่างกายให้มากที่สุด ใช้หลักไม่ประมาทจึงไม่เคยถูกผึ้งต่อยผู้สนใจสามารถติดต่อซื้อน้ำผึ้งหรือเรียนรู้ดูงานได้ที่ 093-8969322

                  ด้านนายธารสวาท  พิมเสน นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ เกษตรอ.ควนกาหลง กล่าวว่าทางเกษตรอ.ควนกาหลงได้ส่งเสริมให้เกษตรกรที่ปลูกพืชผสมผสานให้มีการเลี้ยงผึ้งเป็นรายได้เสริม เนื่องจากในอ.ควนกาหลงปลูกผลไม้กันมาก และมีป่าเขาดอกไม้ป่ามีมากมาย เหมาะแก่การเลี้ยงผึ้ง และน้ำผึ้งของเกษตรกรมีรสชาติดี สีสวย 

โดยน้ำผึ้งที่ได้รับความนิยมคือน้ำผึ้งเดือนห้า แทบจะขาดตลาดเพราะมีความต้องการสูง โดยปัจจุบันกรมส่งเสริมฯได้จัดให้มีการขึ้นทะเบียนแมลงเศรษฐกิจ โดยมีผึ้ง ด้วงสาคู และจิ้งหรีด โดยหลักเกณคือเกษตรกรต้องมีรังผึ้ง 30 รังขึ้นไป เมื่อเกิดภัยพิบัติการขึ้นทะเบียนไว้สามารถรองรับความช่วยเหลือได้ หากไม่ขึ้นทะเบียนเมื่อเกิดความเสียหายก็จะไม่ได้รับการเยียวยา .................

คอดีเย๊าะ เงินเจริญ  //รายงานจากจ.สตูล